"บอสเจ๋ง" โอดผีเล่นดีไม่น่าแพ้-แจงให้ "แม็กไกวร์" ยืนหน้า

รูเบน อโมริม กุนซือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เชื่อว่าทีมของเขาทำผลงานได้ดีพอสมควรในเกมที่ซิตี้ กราวด์ แม้จะเป็นฝ่ายพ่ายให้กับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 1-0 เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา

เกมนี้ แอนโธนี่ เอลังก้า อดีตนักเตะของ "ปีศาจแดง" เป็นคนทำประตูชัยตั้งแต่นาทีที่ 5 ซึ่งกลายเป็นประตูเดียวของเกม

ยูไนเต็ด ครองบอลได้มากกว่าตลอดเกม แต่กลับเปลี่ยนโอกาสเป็นประตูไม่ได้ โดยมีเพียงไม่กี่จังหวะที่หวิดจะได้ประตู เช่น ลูกยิงของ ดิโอโก้ ดาโลต์ ที่ไปชนเสาในครึ่งแรก และจังหวะที่ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ยิงท้ายเกมแต่ถูก มูริลโล่ สกัดบนเส้นไว้ได้

หลังจบเกม อโมริม กระตุ้นลูกทีมให้ลืมความผิดหวัง และเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับศึกใหญ่กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในวันอาทิตย์นี้

"ผมคิดว่าเราเป็นฝ่ายคุมเกมได้ดีนะ แต่เรารู้ดีอยู่แล้วว่าฟอเรสต์เป็นทีมที่สามารถทำประตูได้จากจังหวะที่ไม่คาดคิด และเมื่อพวกเขายิงนำ เราก็เผลอเล่นตามเกมของพวกเขาไปหน่อย" อโมริม กล่าว

"เรามีโอกาสที่ดีหลายครั้ง แต่จังหวะสุดท้าย—ไม่ว่าจะเป็นการครอสบอล, การจ่ายบอล หรือการแอสซิสต์—ยังไม่ดีพอ ถ้าทำไม่ได้ เราก็ยิงประตูไม่ได้"

"ซีซั่นนี้มันเป็นแบบนี้มาตลอด เราพยายามกันอย่างเต็มที่ เรามีโอกาสยิงเยอะ บีบคู่แข่งให้ถอยไปตั้งรับในแดนสุดท้าย แต่เรายังขาดคุณภาพในพื้นที่สุดท้ายของสนาม"

"ผมคิดว่าโดยรวมแล้วเราเล่นได้โอเค คุมเกมได้ดี แต่การเสียประตูจากจังหวะโต้กลับหลังลูกตั้งเตะของเราเองมันเป็นสิ่งที่เราไม่ควรพลาด เรารู้ดีว่าฟอเรสต์มีเกมรุกที่อันตรายจากการเล่นลูกทะลุช่องและจังหวะเก็บบอลจังหวะสอง สุดท้ายเราก็เสียประตูแบบนั้น และมันทำให้เกมยากขึ้นมาก"

"แน่นอน มันน่าหงุดหงิดเสมอเมื่อคุณเป็นฝ่ายแพ้ โดยเฉพาะเมื่อมองจากรูปเกมแล้วเราน่าจะได้อะไรมากกว่านี้ มันยิ่งน่าผิดหวังขึ้นไปอีกเพราะเราไม่ได้แพ้เพราะคู่แข่งเล่นดีกว่าเรา พวกเขาไม่ได้เหนือกว่าเราในวันนี้ มันเลยน่าหงุดหงิดมาก"

ช่วงท้ายเกม อโมริม เลือกส่ง แม็กไกวร์ ยืนหน้าเป้าเพื่อเจาะแนวรับคู่แข่ง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ผล

"ถ้าดูจากเกมช่วง 15 นาทีสุดท้าย ฟอเรสต์ถอยไปตั้งรับในกรอบเขตโทษกันถึง 6 คน ซึ่งทำให้เราต้องเพิ่มผู้เล่นเข้าไปในกรอบให้มากขึ้น เพราะเราทำเกมรุกเข้าไปในกรอบด้วยการต่อบอลกันได้ยาก" นายใหญ่ชาวโปรตุกีสกล่าวเสริม

"แฮร์รี่ แม็กไกวร์ เป็นคนที่เล่นลูกกลางอากาศได้ดีมากในกรอบเขตโทษของคู่แข่ง และเมื่อเขาขึ้นไปเล่นในเขตโทษฝั่งตรงข้าม เขาก็กลายเป็นกองหน้าไปเลย ไม่ใช่กองหลัง ดังนั้นเราต้องใช้ผู้เล่นที่เก่งในการเล่นในกรอบเขตโทษ และเขาก็อาจเป็นคนที่ทำได้ดีที่สุดในจุดนั้น"